เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554 ระหว่างเวลา 09.30 – 11.00 น. นายธวัช สุมิตรเหมาะ อุปทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน พร้อมด้วย นายอับดุลวารีส บิลังโหลด จนท. /ผู้ช่วยด้านการเมืองและเศรษฐกิจ และ น.ส. ศรีลักษณ์ พาร์สันส์ จนท. ล่าม สอท.ได้เข้าเยี่ยม Haji Jusni bin Haji Abd Latiff ผอ.กรมราชทัณฑ์ ณ ทัณฑสถาน Jerudong โดยมี จนท.อาวุโส / ฝ่ายบริหารของทัณฑสถาน ร่วมให้การต้อนรับ
ขณะนี้ทัณฑสถาน มีนักโทษไทยชาย จำนวน 5 คนที่ถูกกุมขังอยู่ในทัณฑสถานแห่งนี้ (โทษประหารชีวิต 1 คน จำคุกตลอดชีวิต 1 คน โทษระยะสั้น 2 คน และรอขึ้นศาล 1 คน) เดิมมีนักโทษหญิงอยู่บ้างแต่ได้พ้นโทษไปแล้ว โดยได้รับความอนุเคราะห์อย่างดีจาก จนท.ที่เกี่ยวข้อง และนักโทษทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีและมีความสุขตามอัตภาพ โดยที่ผ่านมานักโทษไทยมีความประพฤติดี ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ทัณฑสถานต้องหนักใจ อาจจะมีปัญหาบ้างในการสื่อข้อความ ซึ่งนักโทษมักจะพูดภาษาอังกฤษ/มลายูไม่ได้ ก็อาจจะเขียนเป็นภาษาไทยลงในกระดาษ ซึ่งทัณฑสถานก็จะติดต่อ สอท.เพื่อขอให้ช่วยแปลข้อความเป็นครั้งๆ ไป โดยปกติทัณฑสถานจะจัดกิจกรรมผ่อนคลายให้แก่นักโทษทุกสัปดาห์ อยู่แล้ว อาทิ การนำออกกำลังกายนอกห้องขัง การจัดให้คำปรึกษา การจัดแพทย์มาตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ ทัณฑสถานก็อนุญาตให้ญาติมิตรของนักโทษสามารถมาเยี่ยมนักโทษที่ทัณฑสถานได้ทุก 6 สัปดาห์ และสอท.ได้มาเยี่ยมนักโทษเดือนละครั้งด้วย
สอท.และสนร.บรูไน ได้รายงานข้อกฎหมายและข้อเตือนใจของการใช้ชีวิตในบรูไนไปยัง กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานของไทยมาโดยตลอด เป็นการให้ความรู้แก่แรงงานไทยก่อนเดินทางมายังบรูไน อันเป็นการช่วยให้ป้องกันปัญหาที่ต้นทาง และให้ความสำคัญแก่งานการคุ้มครองดูแลคนไทยในต่างประเทศ
บรูไน เป็นประเทศอิสลามที่เคร่งครัด มีบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการโบยด้วยหวายและประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ (ไม่มีการแขวนคอนี้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2539) โทษโบยซึ่งมีตั้งแต่ 1 ครั้งถึง สูงสุด 24 ครั้งแล้วแต่ความรุนแรงของการกระทำความผิด เช่น โทษข่มขืน จะต้องได้รับโทษเบื้องต้นด้วยการถูกโบยถึง 24 ครั้งคราวเดียวจนครบ ( ผู้ตีจะลงหวายแต่ละครั้งเว้นช่วงประมาณ 15 วินาที) และเมื่อพิจารณาจากบาดแผลที่เกิดจากการโบย 24 ครั้ง แผลที่เกิดหลังโบยใหม่ๆ จะมีสภาพเนื้อที่ก้นแตกยับเป็นแนว แตกช้ำ อมสีม่วงเข้ม และมีแผลเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนเนื้อจะมีสภาพช้ำอักเสบ ผู้ถูกโบยส่วนใหญ่จะมีไข้ เจ็บปวดมาก) ดังนั้นจึงได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า สังคมของชาวบรูไนจึงสงบสุข และมีอัตราการเกิดอาชญากรรม หรืออาชญากรรมรุนแรงน้อย
สนร.บรูไน และสอท.ไทยฯ จึงขอแจ้งเตือนแรงงานไทยและชาวไทยที่อยู่ในประเทศบรูไน ได้รับทราบข้อกฎหมายที่พึงปฏิบัติและส่วนที่ห้ามปฏิบัติ และให้หลีกเลี่ยงหรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับการกระทำผิดศีลธรรมอันดี ไม่คบหาสมาคมกับผู้ชักนำไปในทางเสื่อมเสีย หากต้องการคำแนะนำและรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ สำนักงานแรงงานไทยในประเทศบรูไน สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ถนน ตูตง เขตบันดาร์ โทรฯ 265-3108-9 และโทร 265-3517