คณะข้าราชการกรมการจัดหางานจำนวน 8 คน มาราชการ ณ ประเทศบรูไน ระหว่างวันที่ 21– 24 สิงหาคม 2552 โดยมีนางสาวสุมล ถาวรวสุ จัดหางานจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งมีภารกิจ ได้แก่ ด้านการไปสถานที่ต่างๆ และพบบุคคลสำคัญ คือ เยี่ยมคารวะ นายพิทักษ์ พรหมบุบผา เอกอัครราชทูตฯ และนางแวซง ดาเล็ง อัครราชทูต ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน พบและหารือกับคณะผู้บริหาร ของบริษัท BINA PURI CONSTRUCTION SDN BHD ณ เขตซีเรีย ซึ่งเป็น Main Contractor ที่ได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการบ้าน 2,000 หลัง จากรัฐบาลบรูไน ซึ่งมีความประสงค์จะขอว่าจ้างแรงงานไทย 2,000 – 3,000 คน โดยเร็ว พบและหารือกับผู้บริหารบริษัท SOON LEE MACHINERY SERVICES, บริษัท DIMARA SDN BHD และบริษัท YUNG CHENG MANPOWER AGENCY SUPPLY
ซึ่งเป็น Sub-contractor โครงการบ้าน 2,000 หลัง เยี่ยมแรงงานไทย ที่แคนทีนวีรยุทธฯ เขตเคบี มีแรงงานไทยมาใช้บริการประมาณ 200 – 300 คน เยี่ยมแรงงานไทย ที่ตึก วิสมาเซเตีย ในวันอาทิตย์ แหล่งที่มีแรงงานไทยมาพักผ่อนกันจำนวนมากกว่า 500 – 1,000 คน เยี่ยมผู้ประกอบกิจการไทย ได้แก่ ร้านส่งเงินดีไทยเจนซี่ ร้านส่งเงินเพื่อนไทย ร้านค้าไทยโซน ร้านค้าคุณปรีชา ร้านค้าสินไทย ร้านอาหารไทย ร้านนวดแผนไทยและสปา ร้านอาหารบรูไนที่จ้างพ่อครัวแม่ครัวชาวไทย เช่น Mei Wee และร้าน We Can Elite
เยี่ยมฟาร์มผักและดอกไม้ไฮโดรโฟนิคของ นายชัชชัย อมรทัพพ์ ชาวไทยคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการทำการเกษตรกรรมแบบไฮโดรโฟนิค เยี่ยมผู้ประกอบการไทย อู่ซ่อมบำรุงรถยนต์ ช่างแดง และแรงงานไทยที่ประกอบอาชีพช่างพ่นสีรถยนต์ ในเขตบอรีบี ด้านการทัศนศึกษา/ภูมิประเทศ หมู่บ้านน้ำ ชุมชนของบรูไนมัสยิดประจำรัชกาล 2 แห่ง พิพิธภัณฑ์ของสุลต่าน Royal Regalia ย่านธุรกิจการค้าต่างๆ ในเขตบันดาร์ฯ
ประเด็นที่สำคัญที่ได้รับในการมาราชการ ได้แก่ คณะฯได้รับข้อมูลจากฯพณฯนายพิทักษ์ พรหมบุบผา เอกอัครราชทูต และนางแวซง ดาเล็ง อัครราชทูต ในการร่วมมือปฏิบัติงานเพื่อดูแล คุ้มครอง แรงงานไทยโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงการต่างประเทศใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งได้ทราบแนวทางเพิ่มเติมไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศบรูไน ในด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม การศึกษา และด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทย ตลอดจนการเตรียมกำลังแรงงานในอนาคตด้วย สำหรับสิ่งที่แรงงานไทยควรปรับปรุงแก้ไขได้แก่ ควรกระตุ้นให้ตื่นตัวแสวงหาความรู้อยู่เสมอ เช่น ภาษามลายู นอกจากนี้การดื่มสุราให้น้อยลง จะทำให้เกิดประโยชน์กับตนเองและประเทศไทยอย่างมาก คณะได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องของประเทศบรูไนมากขึ้น เช่น ความนิยมชมชอบแรงงานไทยของผู้ประกอบการชาวบรูไน ที่มีผลต่อความต้องการจ้างแรงงานไทยจำนวนมาก ข้อดีในการมาทำงานในบรูไนเปรียบเทียบกับการทำงานในประเทศอื่นๆ ที่ห่างไกล และมีรายได้ส่งกลับประเทศไทยประมาณเดือนละ 100 ล้านบาท และความสำคัญในการพัฒนากำลังแรงงานในอนาคต เพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในอีก 8 ปีข้างหน้า เป็นต้น การให้การคุ้มครองช่วยเหลือแรงงานไทยได้ดีขึ้นโดยสามารถปรับปรุงแนวทางการอนุมัติการตรวจสอบตำแหน่งงานได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการส่งคณะแพทย์มาให้การตรวจ แนะนำดูแลสุขภาพแก่คนไทยได้ทุกปี คณะได้พบกับผู้ประกอบการด้านการก่อสร้าง ที่ให้ความมั่นใจในการดูแลแรงงานไทยอย่างดี เพื่อให้เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ สนร. บรูไน ให้การอำนวยความสะดวกเป็นที่เรียบร้อย และส่งคณะเดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพแล้ว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2552
แรงงานไทยรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์
สนร.บรูไน